Menu Close

ผู้ติดเชื้อ โควิดใหม่ 2 รายมาจากเมียนมา

ผู้ติดเชื้อ โควิดใหม่ 2 รายมาจากเมียนมา ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2 รายในจังหวัดทางภาคเหนือโดยผู้หญิงทั้งสองคนที่ข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายและทำงานในสถานบันเทิงแห่งเดียวกัน ที่ชายแดนฝั่งเมียนมาเนื่องจากผู้หญิงที่ติดเชื้อกลัวว่าจะเป็นผู้แพร่ระบาดใน เชียงใหม่

นายทศเทพบุญทองหัวหน้าสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาหญิงวัย 26 และ 23 ปีเดินทางเข้าอำเภอไม้ไทรจากเมืองท่าขี้เหล็กในเมียนมาอย่างผิดกฎหมายภายใต้ความมืดมิดในคืนวันพฤหัสบดี  

ทั้งคู่ทำงานที่สถานบันเทิงแห่งเดียวกันในท่าขี้เหล็กขณะที่หญิงสาว  ที่ป่วยด้วยโรคโควิด -19 อายุ 29 ปีที่แอบข้ามพรมแดนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาขึ้นรถไปเชียงใหม่และไปเที่ยวห้างสรรพสินค้าและบาร์แห่งหนึ่งขณะแสดงอาการของโรค

ทั้งสามคนไปทำงานในเมืองชายแดนเมียนมาร์เมื่อเดือนที่แล้ว แต่ตัดสินใจกลับประเทศไทยหลังจากทางการเมียนมาร์ประกาศห้ามเคอร์ฟิวตั้งแต่เที่ยงคืนถึง 04.00 น. เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด -19

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ผู้ติดเชื้อ ต้องทำอย่างไรต่อไป

ผู้ติดเชื้อ โควิดใหม่ 2 รายมาจากเมียนมา ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2 รายในจังหวัดทางภาคเหนือโดยผู้หญิงทั้งสองคน

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ดร. ทศเทพกล่าวซึ่งแตกต่างจากผู้หญิงคนนี้ที่กำลังรับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ผู้ป่วยรายใหม่ในจังหวัดเชียงรายไม่ได้ไปในสถานที่สาธารณะแทนที่จะอยู่ในโรงแรมในพื้นที่และสั่งอาหารจากแอปจัดส่ง

หญิงวัย 26 ปีตัดสินใจเข้ารับการตรวจไวรัสที่โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงรายในอ. เมืองเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาหลังจากได้ยินว่าเพื่อนร่วมงานของเธอในเชียงใหม่ป่วยเป็นโรคนี้

การทดสอบ 2 ครั้งยืนยันว่าเธอเป็นโรคโควิด-positive ในวันอาทิตย์และหลังจากนั้นเธอก็ถูกย้ายไปที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ในอำเภอเมือง

กรณีใหม่นี้กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดนกับเมียนมาเนื่องจากคาดว่าคนไทยที่ทำงานในท่าขี้เหล็กจะกลับบ้านมากขึ้นหลังจากทางการเมียนมาใช้เคอร์ฟิวในการปิดสถานบันเทิงยามค่ำคืน

บทความโดย ufabet888

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *