เกิดอะไรขึ้น ในเมือง Lod ที่อิสราเอล การประท้วงของชาวอาหรับอิสราเอลเกิดขึ้นในเมือง Lod เมืองใกล้เทลอาวีฟและลุกลามไปสู่การจลาจลเต็มรูปแบบโดยผู้ประท้วงขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจซึ่งตอบโต้ด้วยระเบิดที่ทำให้ตกตะลึง การประท้วงตามงานศพของชายชาวอาหรับอิสราเอลที่เสียชีวิตระหว่างเหตุการณ์ไม่สงบในเมืองหนึ่งวันก่อนหน้านี้
อย่างน้อย 12 คนได้รับบาดเจ็บในการปะทะที่หนังสือพิมพ์อิสราเอลเร็ตซ์รายงาน เมื่อคืนที่ผ่านมาสถานการณ์เลวร้ายใน Lod ตำรวจกล่าวเมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมาพ่อวัย 52 ปีและลูกสาววัย 16 ปีของเขาถูกสังหารเมื่อจรวดที่ยิงจากฉนวนกาซาพุ่งเข้าใส่รถของพวกเขาและทำให้แม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกันตามรายงานของ Times of Israel
สื่ออิสราเอลรายงานว่าธรรมศาลาและธุรกิจหลายแห่งถูกจุดไฟขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์กล่าวว่ามีรายงานชาวยิวขว้างรถที่ชาวอาหรับขับ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมาเบนจามินเนทันยาฮูนายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศภาวะฉุกเฉินในเมืองลอด ตำรวจชายแดนอิสราเอลถูกนำตัวจากเวสต์แบงก์
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ในช่วงนี้ เกิดอะไรขึ้น
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
Times of Israel กล่าวว่านี่เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลใช้อำนาจฉุกเฉินกับชุมชนอาหรับตั้งแต่ปี 2509 ความขัดแย้งระหว่างทหารอิสราเอลและกลุ่มก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาได้กระตุ้นให้เกิดความไม่สงบในหมู่ชนกลุ่มน้อยชาวอาหรับในอิสราเอลจนนำไปสู่การประท้วง
นอกจากนี้ยังมีความไม่สงบในเมืองอื่น ๆ ที่มีประชากรชาวอาหรับอิสราเอลจำนวนมากเช่นเดียวกับในเยรูซาเล็มตะวันออกและเวสต์แบงก์ หลังจากสองวันของการสู้รบการยิงจรวดของกลุ่มก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์และการโจมตีทางอากาศโดยทหารอิสราเอลยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งในเช้าวันพุธ
ในทวีตกองทัพของอิสราเอลระบุว่าได้โจมตี “เป้าหมายการก่อการร้ายจำนวนมาก” ทั่วฉนวนกาซาเพื่อตอบโต้จรวดหลายร้อยลูก การประท้วงครั้งนี้ถือเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014 ทหารอิสราเอลกล่าวว่าอาคารสูงบ้านและสำนักงานที่ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์ใช้ในฉนวนกาซาเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่โจมตีโดยเครื่องบินขับไล่ทหารของอิสราเอลกล่าว
บทความโดย รูเล็ต
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *